ทีมพัฒนซอฟต์แวร์ในองค์กร vs. Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์ เลือกแบบไหนคุ้มค่าและตอบโจทย์ธุรกิจ

ทุกวันนี้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์กลายเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจ การตัดสินใจเลือกแนวทางการพัฒนาซอฟต์แวร์จึงส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จขององค์กร โดยหนึ่งในคำถามที่หลายองค์กรเผชิญคือ ควรสร้างทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กร หรือจ้างบริษัท Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์แทน ซึ่งทั้งสองแบบมีจุดเด่น และความสะดวกที่แตกต่างกัน โดยสิ้นเชิง การเลือกทีมซอฟต์แวร์ที่เหมาะสม จะช่วยให้องค์กรได้ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ และพร้อมพาองค์กรเติบโตในระยะยาว

บทความนี้จะพาทุกคนไปเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ทีมพัฒนซอฟต์แวร์ในองค์กร vs Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์ ว่าทั้งสองแบบต่างกันอย่างไร แบบไหนที่เหมาะสมต่อองค์กรของคุณ 


การพัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กรและ Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์ คืออะไร

การพัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กร (In-house) และการจ้างบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ภายนอก (Outsource) เป็นสองรูปแบบหลักในการทำโปรเจ็กต์ซอฟต์แวร์ที่องค์กรต้องตัดสินใจเลือกใช้ ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย งบประมาณ ความเสี่ยง และข้อจำกัดด้านทรัพยากรของแต่ละองค์กร โดยจะมีจุดเด่นและความหมายที่ต่างกัน ดังนี้

ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กร (In-house Development)

การพัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กรคือการที่องค์กรหรือบริษัทสร้างทีมพัฒนาเป็นของตัวเองทั้งหมด ตั้งแต่การคัดเลือกบุคลากร, การกำหนดทักษะที่ต้องการ, การวางสถาปัตยกรรมระบบ, การพัฒนา ทดสอบ ไปจนถึงการดูแลหลังการใช้งาน ทำให้ควบคุมทิศทางและคุณภาพงานได้อย่างใกล้ชิด จุดเด่นคือความสอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจมากขึ้น ความรู้และซอร์สโค้ดอยู่ภายในองค์กร ลดความเสี่ยงด้านความลับและ IP แต่ทั้งนี้ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ In-House ก็มาพร้อมต้นทุนสูง เช่น เงินเดือน, ทีมไอทีครบชุด, ค่าอุปกรณ์, ค่าอบรม และความท้าทายในการสเกลทีมให้ทันตามความต้องการของโปรเจ็กต์

การจ้างบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ภายนอก (Outsourced Development)

การจ้างทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ภายนอกคือการว่าจ้างบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์หรือทีมภายนอกให้รับผิดชอบงานพัฒนาแทนองค์กร โดยผู้ว่าจ้างให้เพียงความต้องการของระบบ ส่วนผู้รับจ้างดำเนินงานตามกระบวนการพัฒนาอย่างมืออาชีพ จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนคงที่ เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้รวดเร็ว และสามารถเพิ่ม–ลดขนาดทีมได้อย่างยืดหยุ่นตามระยะของโปรเจ็กต์ อย่างไรก็ตาม อาจมีความเสี่ยงด้านการสื่อสาร, ความล่าช้า หรือความเสี่ยงด้านข้อมูล หากไม่มีการกำหนดสัญญาและขั้นตอนควบคุมคุณภาพอย่างชัดเจน


พัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

การพัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กร (In-house Development) เป็นรูปแบบที่หลายธุรกิจเลือกใช้ โดยเฉพาะองค์กรที่มีโปรเจ็กต์ระยะยาวและต้องการความปลอดภัยของข้อมูลสูง แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงรวมถึงความเสี่ยงอื่น ๆ ที่องค์กรต้องทำความเข้าใจ ดังนี้

ข้อดีของการพัฒนาภายในองค์กร 

  • ควบคุมการพัฒนาได้เต็มที่ สามารถติดตามงานใกล้ชิด ปรับแก้ทันที และตัดสินใจได้รวดเร็วเพราะอยู่ภายในองค์กรเดียวกัน
  • ทีมเข้าใจวัฒนธรรมและเป้าหมายของบริษัท ทำให้พัฒนาซอฟต์แวร์ได้ตรงความต้องการธุรกิจมากกว่า เพราะเข้าใจบริบทองค์กรอย่างลึกซึ้ง
  • สื่อสารรวดเร็วและตรงประเด็น อยู่ในทีมเดียวกัน ทำให้ feedback, update และการร่วมงานกับทีมอื่นเป็นไปอย่างราบรื่น
  • มีความปลอดภัยของข้อมูลสูงกว่า โค้ดและข้อมูลอยู่ในระบบของบริษัท ลดความเสี่ยงจากบุคคลภายนอก เหมาะกับงานที่ต้องการความลับสูง

ข้อเสียของการพัฒนาภายในองค์กร 

  • ต้นทุนสูงและมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง ต้องจ่ายเงินเดือน สวัสดิการ อุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านฝึกอบรมและโครงสร้างพื้นฐาน
  • จำกัดด้วยบุคลากรในพื้นที่ อาจทำให้องค์กรไม่เจอผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการ หรือใช้เวลานานกว่าคนที่มีความสามารถจะย้ายมาร่วมงาน
  • ทักษะและเทคโนโลยีในทีมอาจไม่เพียงพอ หากทีมไม่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีที่ต้องใช้ อาจทำให้โปรเจ็กต์ล่าช้า หรืองานไม่ถึงมาตรฐาน
  • ปัญหาหลังโปรเจ็กต์เสร็จสิ้น เมื่อระบบพัฒนาเสร็จ หากไม่มีงานต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดภาระต้นทุน เพราะไม่สามารถลดทีมได้ทันที

Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

Outsource บริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีขอบเขตงานชัดเจน แต่ไม่ต้องการตั้งทีมพัฒนาเองภายในองค์กร การจ้างผู้เชี่ยวชาญภายนอกช่วยให้เริ่มงานได้เร็วขึ้นและลดภาระต้นทุนระยะยาวได้อย่างมาก

ข้อดีของการ Outsource พัฒนาซอฟต์แวร์ 

  • ประหยัดต้นทุนมากกว่า In-house ลดค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือน, สวัสดิการ, ออฟฟิศ, อุปกรณ์ และการสรรหาพนักงาน ช่วยควบคุมงบประมาณได้ดีขึ้น
  • เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญ ไม่จำกัดแค่พนักงานในองค์กร แต่สามารถเลือกทีมที่มีทักษะเฉพาะทาง ทำให้หากลุ่มคนที่มีความสามารถได้ตรงตามต้องการมากกว่า
  • พัฒนาและส่งงานได้รวดเร็ว ทีม Outsource มักเป็นผู้เชี่ยวชาญพร้อมเริ่มงานทันที ช่วยลดเวลาสร้างทีม และทำให้ Time-to-market รวดเร็วขึ้น
  • ลดความเสี่ยงโปรเจ็กต์ล้มเหลว ทีมภายนอกมักมีประสบการณ์ทำโปรเจ็กต์ลักษณะใกล้เคียงจำนวนมาก จึงช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มโอกาสได้งานที่ตรงความต้องการ
  • มีรูปแบบการทำงานให้เลือกหลากหลาย เช่น Outsourcing เต็มรูปแบบ, It Consultant, Cloud & DevOps ทำให้เลือกตามงบและรูปแบบงานที่เหมาะที่สุดได้

ข้อเสียของการ Outsource พัฒนาซอฟต์แวร์

  • การควบคุมงานทำได้จำกัด ต้องผ่านขั้นตอนการสื่อสารและอนุมัติหลายฝ่าย ทำให้ปรับงานหรือแก้ไขช้ากว่าการมีทีมภายใน
  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล การส่งข้อมูลให้ทีมภายนอกต้องมีมาตรการป้องกันที่รัดกุม เพื่อป้องกันข้อมูลสำคัญและทรัพย์สินทางปัญญารั่วไหล
  • หาผู้ให้บริการที่เหมาะสม การคัดเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องดูงบประมาณ, ประสบการณ์ และความน่าเชื่อถือ หากเลือกผิดอาจเสียเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น

ทีมงานภายในองค์กร vs. Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์ เลือกแบบไหนให้ตรงใจองค์กร

สำหรับองค์กรไหนที่ยังลังเลว่า จะเลือกใช้บริการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ In-House หรือ Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้ตอบโจทย์กับเป้าหมายของธุรกิจ เราได้ทำตารางสำหรับเปรียบเทียบจุดเด่นของทั้งสองแบบ ดังนี้ 

หัวข้อ พัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กรOutsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์
ขอบเขตและความซับซ้อนเหมาะกับโปรเจกต์ขนาดใหญ่ ซับซ้อน
ต้องการควบคุมงานใกล้ชิด
เหมาะกับโปรเจกต์ขนาดเล็ก – กลาง
หรือโปรเจกต์เฉพาะทางที่มีขอบเขตชัดเจน
การควบคุมและการสื่อสารควบคุมงานได้โดยตรง สื่อสารรวดเร็ว
เข้าใจบริบทธุรกิจอย่างลึกซึ้ง
ควบคุมผ่านสัญญาและขอบเขตงาน
อาจใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจธุรกิจ
ต้นทุนและงบประมาณมีต้นทุนระยะยาว เช่น เงินเดือน, สวัสดิการ
และการฝึกอบรม
จ่ายตามขอบเขตงาน ลดต้นทุนการจ้างงาน
และค่าใช้จ่ายแฝง 
ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญจำกัดด้วยความสามารถพนักงาน 
อาจหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้ยาก
เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญได้หลากหลาย สามารถเติมทีมได้ตามความต้องการ

สรุป

โดยสรุปการพัฒนาซอฟต์แวร์ภายในองค์กร (In-house) และการเลือกจ้าง Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์ ต่างมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย In-house เหมาะกับองค์กรที่ต้องการควบคุมงานอย่างใกล้ชิด มีโปรเจ็กต์ระยะยาว และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลเป็นหลัก ขณะที่การ Outsource เหมาะกับองค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่น ลดต้นทุน เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และต้องการพัฒนาระบบให้เสร็จได้รวดเร็วภายในขอบเขตงานที่ชัดเจน

หากองค์กรไหนที่ต้องการทีม Outsource รับพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่มีคุณภาพ พร้อมดูแลโปรเจกต์ของคุณตั้งแต่วางแผนเริ่มต้น พัฒนา ไปจนถึงการปรับปรุงพัฒนา ขอแนะนำ อโยเดีย ที่มีทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น พัฒนาซอฟต์แวร์องค์กร, เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน พร้อมรับรองด้วยมาตรฐานสากล ISO 29110 และ CMMI Level 3 ให้คุณมั่นใจได้ว่า จะได้รับซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ ตรงตามเป้าหมายของธุรกิจ

Footer Ayodia