ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลและบริการออนไลน์มีอยู่รอบตัว การเข้าถึงข้อมูลที่กระจัดกระจายจากหลายแหล่งอาจทำให้ผู้ใช้งานเสียเวลาและยุ่งยาก Web Portal จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะ “ศูนย์กลางดิจิทัล” ที่รวบรวมเนื้อหา แอปพลิเคชัน และบริการที่เกี่ยวข้องมาไว้ในที่เดียว ทั้งยังสามารถปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักถึงบทบาทหน้าที่ของ Web Portal ว่าคืออะไร แตกต่างจากเว็บไซต์ยังไง และมีแนวทางพัฒนาอย่างไรบ้าง
ทำความเข้าใจคำนิยามและบทบาทของ Web Portal ?
Web Portal คือเว็บไซต์แบบไดนามิคที่จะทำหน้าที่เข้าถึงข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ และเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง มาไว้ในที่เดียวเพื่อตอบโจทย์การทำงานแบบเฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มความสะดวกของผู้ใช้งาน ในการเข้าถึงข้อมูลได้ภายในหน้าเว็บไซต์เดียว รวมถึงช่วยในการปรับแต่งเนื้อหา และ Content ต่าง ๆ ในเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยการทำงานของ Web Portal นั้น จะเป็นรูปแบบของ Interface ระหว่างบุคคล ซึ่งภายในหน้าเว็บไซต์นั้น จะทำหน้าที่แนะนำ ช่วยเหลือ และโต้ตอบกับผู้ใช้งาน ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือจัดหมวดหมู่เนื้อหาต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ใช้งาน สามารถค้นหา เข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง Web Portal และ Website
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเว็บเหมือนกัน แต่ทั้งนี้รูปแบบการทำงานของ Website และ Web Portal มีความต่างกัน ทั้งในด้านจุดประสงค์ ไปจนถึงรูปแบบการทำงานต่าง ๆ ดังนี้
| คุณสมบัติ | Website | Web Portal |
| จุดประสงค์ | ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินค้า หรือการให้บริการ | รวบรวมเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง แอปพลิเคชันไว้ในหน้าเดียว |
| การเข้าถึง | สามารถเข้าถึงผ่าน URL ได้ทันที ไม่ต้องล็อกอิน | ต้องเข้าล็อกอิน เพื่อเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ |
| กลุ่มผู้ใช้งาน | กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป | กลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะ เช่น ลูกค้า หรือพนักงานที่ให้บริการ เป็นต้น |
| รูปแบบการทำงาน | ใช้สำหรับอ่าน และรับข้อมูลเท่านั้น | สามารถสื่อสารโต้ตอบต่าง ๆ ได้ผ่านข้อความ หรือแสดงความคิดเห็น |
5 ขั้นตอนการสร้าง Web Portal
สำหรับการพัฒนา Web Portal ให้เกิดประสิทธิภาพ พร้อมตอบโจทย์ต่อธุรกิจ หรือลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ จะประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
1. รวบรวมข้อมูล
ลำดับแรกของการออกแบบหรือพัฒนา Web Portal คือการเข้าใจถึงข้อมูล และความต้องการของลูกค้าโดยละเอียด ด้วยการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร, การพูดคุยสัมภาษณ์ และศึกษาจากปัญหาผู้ใช้งาน (Pain Point) เป็นต้น
ทั้งนี้การรวบรวมข้อมูลจากลูกค้าที่ดี ผู้พัฒนาจะต้องมีการระบุสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หรือปัญหาที่ต้องการแก้ไขมากที่สุด เพื่อช่วยต่อการจัดลำดับความสำคัญในการพัฒนาเป็นฟีเจอร์ต่าง ๆ บน Web Portal
เพราะเมื่อเรามข้อมูลที่มากเพียงพอ ก็จะยิ่งช่วยให้สามารถออกแบบ Web Portal ให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีฟีเจอร์ที่เข้าใจความต้องการผู้ใช้งานอย่างแท้จริง
2. ออกแบบ UX/UI ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน
Web Portal ที่ดี นอกจากจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดแล้ว การเลือก Interface ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยจะเป็นหน้าที่ของทางทีมพัฒนา UX/UI ที่จะต้องออกแบบตัวเว็บให้ใช้งานง่าย มีความยืดหยุ่น พร้อมรองรับต่อการใช้งานจำนวนมาก
นอกจากการออกแบบหน้าตาของ Web Portal แล้ว ก็ยังมีการสร้างรูปแบบการใช้งาน Interface ให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว สามารถชี้แนะ นำทางต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานรู้สึกประทับใจมากที่สุด
3. พัฒนาฟังก์ชันของ Web Portal
หลังจากที่ทำการออกแบบ UX/UI ในการดีไซน์หน้าตาเว็บแล้ว ส่วนต่อมาคือการพัฒนาเกี่ยวกับฟังก์ชัน และฟีเจอร์ต่าง ๆ ในการใช้งานให้ตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ โดยอิงจากข้อมูลที่ได้ในขั้นตอนแรก โดยส่วนใหญ่แล้วทีมพัฒนาจะเลือกพัฒนารูปแบบ Agile หรือแบบน้ำตก เพื่อให้ทีมพัฒนาสามารถปรับปรุง แก้ไขในแต่ละส่วนได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้การออกแบบฟังก์ชันการใช้งาน Web Portal ให้มีประสิทธิภาพ ทีมพัฒนาจะต้องให้ความสำคัญต่อการทำงาน เช่น สิทธิ์การใช้งาน, ความปลอดภัยของเว็บ, การจัดการเอกสารต่าง ๆ ภายในเว็บ เป็นต้น เพื่อให้การเข้าใช้งานเว็บไซต์เป็นไปอย่างราบรื่น
4. ทดสอบและปรับแต่งการทำงานของ Portal
หลังจากที่ดำเนินการพัฒนาหน้าเว็บ และฟังก์ชันการทำงาน Web Portal แล้ว ส่วนต่อมาคือการทดสอบการใช้งานของเว็บ ก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ และใช้งานจริง โดยจะต้องมีการทดสอบอย่างละเอียด ตั้งแต่พนักงานในทีมแต่ละแผนก, การทดสอบความปลอดภัย รวมถึงการรวบรวมฟีดแบกจากผู้ใช้งาน
เมื่อเห็นจุดที่ต้องปรับปรุง ทีมพัฒนาจะนำต้องทำการปรับแต่ง Web Portal ตามผลการทดสอบ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด หรือความขัดข้องหลังจากที่เผยแพร่ออกไป
5. พัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่เผยแพร่ Web Portal แล้ว ทีมพัฒนาจะต้องคอยตรวจสอบผลตอบรับ ดูแล ปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ให้เว็บสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล มีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้งาน และสร้างความโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด
สรุป
Web Portal ไม่ได้เป็นเพียงเว็บไซต์ธรรมดา แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อข้อมูล บริการ และผู้ใช้งานเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ทุกธุรกิจต่างแข่งขันกันด้วยความสะดวก รวดเร็ว การลงทุนพัฒนา Web Portal ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูลและการสื่อสารในยุคดิจิทัลมีความครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากองค์กรใดต้องการยกระดับการทำงานและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วย Web Portal ขอแนะนำ อโยเดีย ที่มีทีมพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาเว็บ และแอปพลิเคชันโดยเฉพาะ เพื่อให้องค์กรของคุณไดเว็บที่มีคุณภาพ พร้อมเติบโตในยุคดิจิทัล
