การมีระบบซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตในปัจจุบัน การเลือกบริษัท รับพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เหมาะสมจึงไม่ใช่เพียงแค่การหาทีมเขียนโปรแกรม แต่เป็นการหาพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่จะช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์เป้าหมาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ควบคุมต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน หากเลือกบริษัทที่มีคุณภาพ องค์กรจะได้รับระบบซอฟต์แวร์ที่ตรงตามความต้องการ ใช้งานได้จริง
ในบทความนี้เราได้รวม 7 วิธีเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้ตอบโจทย์องค์กร และได้ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพ จะมีอะไรบ้างไปติดตามอ่านได้เลยครับ
เหตุใดการเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้องค์กร จึงมีความสำคัญ ?
การที่องค์กรจะเลือกบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์นั้น คือส่วนสำคัญอย่างยิ่งการเริ่มโครงการ หรือโปรเจกต์ที่ทำให้องค์กรและธุรกิจเติบโต เพราะบริษัท Software House ที่ดี จะมีความเข้าใจถึงกระบวนการทำงานเพื่อพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เกิดประสิทธิภาพตามที่หวัง รวมถึงช่วยต่อการควบคุมงบประมาณ และระยะเวลาในการดำเนินงานที่เหมาะสม ตรงกันข้าม หากองค์กรเลือกบริษัท Software House ที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจทำให้ได้ซอฟต์แวร์ที่ไม่ตรงตามเป้าหมาย เสียงบประมาณ และเวลาในการดำเนินการ
เพราะบริษัท Software House ที่มีคุณภาพ จะมีความเข้าใจ และประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ให้กับธุรกิจต่าง ๆ ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายที่วางไว้ มีทีมผู้เชี่ยวชาญ และระบบการทำงานที่ชัดเจน ตรวจสอบได้ ส่งผลดีต่อการพัฒนาองค์กรในระยะยาว
เหตุผลสำคัญที่ว่าทำไมการเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ มีดังนี้
- สร้างแนวทางของซอฟต์แวร์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและผลผลิต
- รับประกันการควบคุมคุณภาพและการปฏิบัติตามมาตรฐาน
- สามารถยืดหยุ่นและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้
- บริหารความเสี่ยงและการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน

7 เทคนิคการเลือก บริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้มีประสิทธิภาพ
สำหรับองค์กรหรือธุรกิจไหน ที่ต้องการเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้เกิดประสิทธิภาพ สามารถต่อยอดทางธุรกิจในระยะยาว ประกอบไปด้วย 7 เทคนิคสำหรับการพิจารณา ดังนี้
1. ประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมา
ผลงานหรือประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญ ความสามารถของบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์นั้น ๆ ว่าจะสามารถมอบโซลูชันที่เหมาะสมต่อองค์กรหรือธุรกิจได้จริง เพราะยิ่งบริษัทซอฟต์แวร์มีผลงานและความเชี่ยวชาญมาก ก็จะมีทรัพยากร รวมถึงทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่พร้อมมากขึ้นไปด้วย ทำให้การพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถดำเนินการได้มีคุณภาพ ได้ผลลัพธ์ตรงตามระยะเวลา และเป้าหมายที่วางไว้
ซึ่งการพิจารณาผลงานที่ผ่านมาของบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ จะต้องพิจารณาว่าผลงานที่ผ่านมานั้น มีความใกล้เคียงกับโปรเจกต์ที่องค์กรต้องการ หรือเป็นธุรกิจที่คล้ายเคียงกัน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทักษะ ความเข้าใจ ลดความเสี่ยงที่จะได้ทีมพัฒนาที่ขาดประสบการณ์ หรือขาดความเชี่ยวชาญ จนนำมาสู่การเสียเวลาและงบประมาณโดยไม่จำเป็น
2. คำรับรองและมาตรฐานที่เชื่อถือได้
นอกจากประสบการณ์การทำงานที่ช่ำชองแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำหรับการเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ คือคำรับรองและมาตรฐานการรับรองที่สามารถเชื่อถือได้ ซึ่งที่ อโยเดียนั้น ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็น ISO 29110 ที่เป็นมาตรฐานระดับสากล สำหรับหน่วยงาน หรือผู้ประกอบการที่รับพัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก
นอกจากนี้ยังได้รับการรับรอง CMMI Level 3 ที่โดดเด่นเรื่องกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ชัดเจน สามารถวัดผลได้ เน้นการพัฒนา และปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ ช่วยให้ลูกค้าที่ใช้บริการสามารถมั่นใจในคุณภาพของซอฟต์แวร์ได้รับ
ทำความเข้าใจถึงมาตรฐาน ISO และมาตรฐาน CMMI ได้ที่บทความ
– รู้จัก CMMI: เส้นทางสู่การพัฒนา Software อย่างมีมาตรฐานและยั่งยืน
– มาตรฐาน ISO 29110 เบื้องหลังซอฟต์แวร์ที่ดี และธุรกิจที่โตอย่างมั่นคง
3. ประสบการณ์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
อีกหนึ่งปัจจัยการเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ คือเลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม หรือธุรกิจต่าง ๆ เพราะจะช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่า เมื่อต้องปรับแต่ง หรือแก้ไขระบบซอฟต์แวร์องค์กร บริษัทซอฟต์แวร์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถปรับให้ตรงต่อความต้องการของลูกค้า และเข้าใจความซับซ้อน ความต้องการของธุรกิจนั้น ๆ ได้
นอกจากนี้การเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่ผ่านประสบการณ์หลากหลายอุตสาหกรรม ก็ยังช่วยต่อการวิเคราะห์เทรนด์ของตลาด วิเคราะห์คู่แข่ง และภาพรวมของอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ
4. วัฒนธรรมและการสื่อสาร
วัฒนธรรมและรูปแบบการสื่อสารของบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นส่วนสำคัญ ต่อการได้ระบบซอฟต์แวร์องค์กรที่มีคุณภาพ โดยจะต้องเลือกจากทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มวัฒนธรรมการทำงานที่เข้ากับองค์กรของเราหรือไม่ หรือมีรูปแบบการสื่อสาร ทำในภายในทีมอย่างไร
เพราะวัฒนธรรมและการสื่อสารของทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดี จะช่วยให้การวางแผนงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น สามารถสื่อสาร ประสานงานระหว่างดำเนินการได้ทุกเมื่อ ช่วยลดโอกาสเกิดความผิดพลาด หรือปัญหาในระหว่างดำเนินการได้
5. ทักษะและความเชี่ยวชาญ
การพัฒนาซอฟต์แวร์ในแต่ละครั้ง เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญอย่างมาก เพราะประกอบด้วย การวางแผน, การเขียนโค้ด และการปรับปรุง แก้ไข ยิ่งทีมพัฒนามีความเชี่ยวชาญ จะสามารถวิเคราะห์ และรับมือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้แม่นยำ
ไม่เพียงแค่นั้น การพัฒนาซอฟต์แวร์นั้น ยังต้องมีการติดตามผลลัพธ์หลังจากที่เผยแพร่ไปแล้ว โดยทีมที่มีความเชี่ยวชาญ จะทำงานอย่างมืออาชีพในการแก้ไข ปรับปรุงพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้เวอร์ชันที่ทำงานได้ดีที่สุด
6. Work Flow การทำงาน
แต่ละบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์จะมี Work Flow การทำงานที่แตกต่างกันไป เช่น บางทีมอาจเน้นการมีส่วนร่วมกับลูกค้า หรือบางทีมอาจเน้นเชิงเทคนิค ซึ่งแต่ละรูปแบบจะให้ผลลัพธ์ และระยะเวลาในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ไม่เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทีมพัฒนาจะต้องมีการแบ่งระบบงานอย่างชัดเจน คือ Back-end (ระบบหลังบ้าน) และ Front-end (ส่วนติดต่อผู้ใช้)
ดังนั้นควรพิจารณาถึงรูปแบบการทำงานของแต่ละทีมให้ดี ว่ามีแผนงานตอบโจทย์ต่อทิศทางของโครงการที่วางไว้หรือไม่ เพื่อให้ได้รูปแบบการทำงานที่ตรงตามเป้าหมายที่สุด
7. การกำหนดราคา
งบประมาณเป็นอีกปัจจัยในการเลือกบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยควรหลีกเลี่ยงการเลือกผู้ให้บริการที่ราคาต่ำ เพราะอาจส่งผลให้เกิดปัญหาการเขียนโปรแกรม หรือได้ทีมที่ไม่เชี่ยวชาญได้ ควรพิจารณาบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีบริการที่ครอบคลุม เช่น การช่วยวิจัย และวางแผนงาน ไปจนถึงการติดตามผล ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น
ดังนั้นองค์กรควรระบุเป้าหมาย และผลลัพธ์ของซอฟต์แวร์ที่ต้องการต่อบริษัทซอฟต์แวร์ และนำราคาแต่ละเจ้ามาเปรียบเทียบกัน ควรเลือกบริษัทซอฟต์แวร์ในราคาที่สมเหตุสมผลต่องบประมาณ และผลลัพธ์ที่ได้
สรุป
จะเห็นได้ว่า การเลือกบริษัท รับพัฒนาซอฟต์แวร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของทุกโครงการ เพราะมีผลโดยตรงต่อคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความสำเร็จขององค์กร การพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประสบการณ์ผลงาน มาตรฐานการรับรอง ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน วัฒนธรรมการทำงาน และการสื่อสาร ล้วนช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้ระบบซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์และใช้งานได้จริง
หากองค์กรไหนที่ต้องการทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน มีความเชี่ยวชาญ ขอแนะนำ อโยเดีย ที่พัฒนาซอฟต์แวร์โดยทีมงานมืออาชีพ ได้รับมาตรฐานจาก ISO 29110 และ CMMI Level 3 พร้อมำาองค์กรของคุณเติบโตในยุคดิจิทัล
